10 เรื่องควรรู้เกี่ยวกับ Chiang Mai Design Week ฉลองครบรอบ 10 ปีเทศกาลสร้างสรรค์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในภาคเหนือในปี 2567
เตรียมพบกับเฟสติวัลสุดสร้างสรรค์ส่งท้ายปีแห่งภาคเหนือ กับ “เทศกาลงานออกแบบเชียงใหม่ 2567 (Chiang Mai Design Week 2024 หรือ CMDW2024)” ที่ครั้งนี้จะยิ่งใหญ่และพิเศษกว่าที่ผ่านมา เพราะเทศกาลฯ ได้เดินทางมาถึงปีที่ 10 แล้ว!
สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (องค์การมหาชน) หรือ CEA ขอชวนทุกท่านมาร่วมเฉลิมฉลองวาระครบรอบหนึ่งทศวรรษเทศกาลงานออกแบบเชียงใหม่ ดื่มด่ำบรรยากาศ ชมผลงานสร้งสรรค์ และร่วมกิจกรรมสุดพิเศษมากมาย ที่จะปลุกแรงบันดาลใจด้านการออกแบบและความคิดสร้างสรรค์ไปกับ CMDW2024 ปีนี้เทศกาลฯ จัดขึ้นเป็นปีที่ 10 ภายใต้แนวคิด “SCALING LOCAL: Creativity, Technology And Sustainability - For Reviving Recovery” ระหว่างวันที่ 7 - 15 ธันวาคม 2567 โดยมุ่งผนึกความร่วมมือของผู้คน สกัดองค์ความรู้และภูมิปัญญาท้องถิ่น พร้อมไปกับประยุกต์ใช้เทคโนโลยีและความคิดสร้างสรรค์ เพื่อขับเคลื่อนพลังของคนท้องถิ่นให้เติบโตสู่เวทีโลกอย่างยั่งยืน โดยนำเสนอผ่าน 3 คอนเซ็ปต์สำคัญ
- Creativity (ความคิดสร้างสรรค์) คือทรัพยากรพื้นฐานที่สำคัญเกิดจากการสั่งสมภูมิปัญญาด้านศิลปวัฒนธรรมและสุนทรียะอันชาญฉลาดจากรุ่นสู่รุ่น หากนำมาผสานกับเครื่องมือสมัยใหม่จะเป็นการเพิ่มโอกาสในการสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่สินทรัพย์ในท้องถิ่น
- Technology (เทคโนโลยี) คือเครื่องมือในการต่อยอดและยกระดับต้นทุนทางศิลปวัฒนธรรมในระดับภูมิภาค เพื่อสร้างสรรค์ผลงานที่จะสร้างประโยชน์ให้แก่ผู้คนในวงกว้าง และยังเป็นเครื่องมือที่เชื่อมโยงภาคเหนือเข้าด้วยกัน
- Sustainability (ความยั่งยืน) คือเป้าหมายสำคัญของการจัดงานที่สะท้อนผ่านกระบวนการทำงานสร้างสรรค์ที่สร้างผลกระทบเชิงบวกต่อสิ่งแวดล้อม ทั้งรูปแบบการจัดงาน การออกแบบนิทรรศการ การจัดกิจกรรม ในด้านการเลือกใช้วัสดุและสิ่งปลูกสร้างที่ใช้ประโยชน์ได้ในระยะยาว
ก่อนจะถึงงาน CMDW2024 ในเดือนธันวาคมนี้ เรามาย้อนเวลาทบทวนความทรงจำและเตรียมพร้อมมุ่งหน้าสู่อนาคต ไปกับ 10 เรื่องควรรู้ในวาระครบหนึ่งทศวรรษของ “เทศกาลงานออกแบบเชียงใหม่” ที่จัดขึ้นครั้งแรกในปี 2014 (พ.ศ. 2557) และกำลังจะก้าวเข้าสู่ปีที่ 10 ในปี 2024 (พ.ศ. 2567) นี้
1. 1 ใน 4 เฟสติวัลใหญ่ประจำปีที่จัดโดย CEA
Chiang Mai Design Week หรือ CMDW เป็น 1 ใน 4 เทศกาลงานออกแบบหรือความคิดสร้างสรรค์หลักประจำปีที่จัดโดย CEA ประกอบไปด้วย เทศกาลงานออกแบบกรุงเทพฯ (Bangkok Design Week: BKKDW) เทศกาลอีสานสร้างสรรค์ (Isan Creative Festival: ISANCF) เทศกาลงานออกแบบปักษ์ใต้ (Pakk Taii Design Week: PTDW) และเทศกาลงานออกแบบเชียงใหม่ (Chiang Mai Design Week: CMDW) โดยทำหน้าที่จุดประกายไอเดียสร้างสรรค์ให้ผู้คน ทั้งยังเป็นแพลตฟอร์มที่เปิดโอกาสให้นักสร้างสรรค์และผู้ประกอบการท้องถิ่นในเชียงใหม่และจังหวัดอื่น ๆ ในภาคเหนือได้แสดงศักยภาพ เชื่อมโยงความร่วมมือของผู้คนเข้าด้วยกัน พร้อมสร้างโอกาสใหม่ทางธุรกิจผ่านการประยุกต์ใช้สินทรัพย์และทุนวัฒนธรรมของเมือง นำมาซึ่งการพัฒนาเศรษฐกิจสร้างสรรค์และยกระดับคุณภาพชีวิตของคนในพื้นที่อย่างยั่งยืน
2. 10 ปีกับ 10 ธีมสุดสร้างสรรค์ที่อัปเดตตามเทรนด์โลก
ตั้งแต่ปีแรกที่จัดงานในปี 2014 จนถึงปัจจุบัน (พ.ศ. 2557 - 2567) เทศกาลฯ นำเสนอ ธีมการจัดงานที่แตกต่างกันไป 10 ธีม ซึ่งสอดคล้องกับสถานการณ์และเทรนด์การเปลี่ยนแปลงของโลกในช่วงเวลานั้น ๆ ได้แก่ (1) Born Creative ในปี 2014 (2) New Originals ในปี 2016 (3) Crafted Life ในปี 2017 (4) Keep Refining ยิ่งขัดเกลา ยิ่งแหลมคม ในปี 2018 (5) Better City, Better Living ในปี 2019 (6) Stay Safe Stay Alive อยู่ดีมีสุข ในปี 2020 (7) Co-Forward เชื่อมโยง ฟื้นฟู ก้าวไปด้วยกัน ในปี 2021 (8) Local ‘rise’ation สร้างสรรค์ ท้องถิ่น เติบโต ในปี 2022 (9) Transforming Local: ปรับตัว ต่อยอด ท้องถิ่น เติบโต ในปี 2023 และล่าสุด (10) SCALING LOCAL: Creativity, Technology, And Sustainability - For Reviving Recovery ในปี 2024
3. ดันให้สุดด้าน Crafts and Folk Art สมมงเมืองสร้างสรรค์ขององค์การยูเนสโก
เทศกาลฯ มักมุ่งเน้นประเด็นการส่งเสริมด้านงานหัตถกรรมและศิลปะพื้นบ้าน การต่อยอดสินทรัพย์ทางวัฒนธรรมด้วยการออกแบบและความคิดสร้างสรรค์ รวมถึงการสร้างโอกาสให้แก่นักสร้างสรรค์และธุรกิจท้องถิ่นเป็นพิเศษ เพื่อให้สอดรับกับการที่เชียงใหม่ได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นเมืองสร้างสรรค์ขององค์การยูเนสโก สาขาหัตถกรรมและศิลปะพื้นบ้าน (UCCN - Chiang Mai City of Crafts and Folk Art) มาตั้งแต่ปี 2017 (พ.ศ. 2560)
4. เทศกาลฯ ที่ช่วยกระจายรายได้ให้ทั้งเชียงใหม่และจังหวัดอื่น ๆ ทั่วภาคเหนือ
ตลอดเวลาที่ผ่านมา เทศกาลฯ จัดขึ้นในจังหวัดเชียงใหม่ ในสถานที่จัดงานหลักอย่าง TCDC เชียงใหม่ และย่านจัดงานหลากหลายย่าน ทั้งย่านสำคัญทางประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และเศรษฐกิจของเมือง เช่น ย่านช้างม่อย ย่านท่าแพ ย่านกลางเวียง ย่านอนุสาวรีย์สามกษัตริย์ ย่านวัดอุโมงค์ ย่านล่ามช้าง ย่านวัดเกต ย่านสันกำแพง ย่านหางดง รวมถึงพื้นที่อื่น ๆ ในภาคเหนือ เพื่อกระจายโอกาสทางธุรกิจไปสู่พื้นที่จัดงานทั่วภูมิภาค
5. จัดกว่า 800+ โปรแกรมสร้างสรรค์ตลอด 9 ครั้งที่ผ่านมา
เทศกาลฯ ไม่เคยหยุดนิ่งที่จะสร้างสรรค์กิจกรรมในรูปแบบต่าง ๆ ทั้งนิทรรศการ การจัดแสดงผลงาน ศิลปะการแสดง ศิลปะการจัดวาง ดนตรี ภาพยนตร์ เสวนา เวิร์กช็อป อีเวนต์ กิจกรรมพัฒนาย่านสร้างสรรค์ ตลาดงานคราฟต์ ฯลฯ เพื่อนำเสนอความคิดสร้างสรรค์และศักยภาพของนักสร้างสรรค์ในภาคเหนือจากหลายสาขา โดย 9 ครั้งที่ผ่านมา มีการจัดกิจกรรมรวมกันกว่า 800 โปรแกรม
6. เทศกาลฯ ที่ประสบความสำเร็จทั้งด้านตัวเลขผู้เข้าชมและการสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจ
เทศกาลฯ ได้พัฒนาทั้งรูปแบบ เนื้อหา และเครือข่ายความร่วมมือ เพื่อส่งเสริมให้เทศกาลเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยตลอด 9 ครั้งของการจัดงาน มีผู้สนใจทั้งชาวไทยและต่างชาติเข้าชมงานรวมกันกว่า 1,022,869 คน และจากการเก็บข้อมูลในปี 2018 - 2023 เทศกาลฯ สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจให้ภาคเหนือรวมกว่า 5,361.56 ล้านบาท!
7. เทศกาลฯ ที่รวบรวมนักสร้างสรรค์ทั่วภาคเหนือไว้มากที่สุด
เทศกาลฯ ได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากเครือข่ายนักสร้างสรรค์ ทั้งนักออกแบบ ช่างฝีมือ ศิลปิน นักดนตรี นักสร้างสรรค์ รวมถึงผู้ประกอบการในท้องถิ่นจากหลายกลุ่มอุตสาหกรรมสร้างสรรค์จากทั้งเชียงใหม่และทั่วภาคเหนือ รวมกันกว่าหลายพันราย
8. เทศกาลฯ ขับเคลื่อนเศรษฐกิจสร้างสรรค์ภาคเหนือด้วยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน
ทุก ๆ ปีของการจัดเทศกาลฯ มีผู้สนับสนุนจากทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และสถาบันการศึกษา แสดงให้เห็นถึงความร่วมมือร่วมใจในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจสร้างสรรค์ของเชียงใหม่และจังหวัดอื่น ๆ ในภาคเหนือเพิ่มขึ้นในทุกปี
9. เทศกาลฯ ที่ส่งเสริมความร่วมมือและแลกเปลี่ยนความรู้กับหลายประเทศทั่วโลก
นอกจากจะขับเคลื่อนเทศกาลฯ ผ่านการผนึกกำลังจากหน่วยงานต่าง ๆ ในประเทศไทยแล้ว เทศกาลฯ ยังมีความร่วมมือกับนักสร้างสรรค์หรือหน่วยงานเครือข่ายจากต่างประเทศอีกหลายประเทศ เพื่อร่วมขับเคลื่อนบรรยากาศสร้างสรรค์และแบ่งปันองค์ความรู้สร้างสรรค์ระหว่างประเทศ เช่น ลาว เมียนมา สิงคโปร์ มาเลเซีย ฮ่องกง ไต้หวัน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ อินเดีย รัสเซีย อังกฤษ ฝรั่งเศส เยอรมนี ฯลฯ
10. ก้าวต่อไปของ CMDW ไปต่อเพื่อขับเคลื่อนเชียงใหม่สู่ความยั่งยืน
สำหรับก้าวต่อไปในปีที่ 10 เทศกาลฯ ยังคงตั้งเป้าชูความโดดเด่นด้านงานฝีมือ หัตถกรรมพื้นบ้าน และสินทรัพย์ท้องถิ่นที่มีอยู่มากมายของเชียงใหม่และจังหวัดอื่น ๆ ในภาคเหนืออย่างต่อเนื่อง ส่งเสริมประเด็นความยั่งยืนทางสิ่งแวดล้อมที่ผสานไลฟ์สไตล์สีเขียวเข้ากับการใช้ชีวิตอย่างกลมกลืน รวมทั้งการพัฒนาเชียงใหม่ผ่านการประยุกต์ใช้งานออกแบบ เทคโนโลยี และนวัตกรรม ที่สนับสนุนกลุ่มนักสร้างสรรค์คืนถิ่น (Homecoming) ที่กลับมาพร้อมทักษะประสบการณ์อันเข้มข้นและมุมมองที่แตกต่าง ให้ลงมือค้นหาความเป็นไปได้ใหม่ ๆ จากต้นทุนท้องถิ่นเปี่ยมคุณค่า เกิดเป็นโอกาสใหม่ ๆ และขับเคลื่อนประเด็นสังคม เช่น การเข้าสู่สังคมสูงวัย ทั้งหมดก็เพื่อการเติบโตทางเศรษฐกิจและคุณภาพชีวิตที่ดียิ่งขึ้นของผู้คนในภูมิภาค
มาร่วมเฉลิมฉลองการเดินทางสู่ปีที่ 10 ของเทศกาลงานออกแบบเชียงใหม่ พร้อมจุดประกายให้อุตสาหกรรมสร้างสรรค์ของเชียงใหม่เฉิดฉายสู่ระดับโลกไปด้วยกันใน เทศกาลงานออกแบบเชียงใหม่ 2567 จัดเต็มทั้ง 9 วัน กว่า 110 กิจกรรม ทั้งการจัดแสดงผลงาน ศิลปะการแสดง ศิลปะการจัดวาง ดนตรี ภาพยนตร์ เสวนา เวิร์กช็อป อีเวนต์ ตลาดงานคราฟต์ (Pop Market) ฯลฯ ระหว่างวันที่ 7 - 15 ธันวาคม 2567 ณ ย่านกลางเวียง (อนุสาวรีย์สามกษัตริย์ - ล่ามช้าง) และ ย่านช้างม่อย - ท่าแพ และพื้นที่อื่น ๆ เช่น โกดัง ดี - สยาม หางดง, โหล่งฮิมคาว, พิพิธภัณฑ์ศิลปะร่วมสมัยใหม่เอี่ยม (MAIIAM) ฯลฯ
ติดตามความเคลื่อนไหวได้ที่
Website: chiangmaidesignweek.com
Facebook: Chiang Mai Design Week
Instagram: Chiang Mai Design Week