News Update

27.06.2567

CEA จัดแถลงความสำเร็จโครงการ CHANGE x2: Greater Together ยกระดับธุรกิจโลคัล ทวีคูณรายได้ไปด้วยกัน ณ งานไทยเที่ยวไทย ครั้งที่ 70 ที่ ไบเทค บางนา

สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (องค์การมหาชน) หรือ CEA ร่วมกับ หอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย จัดแถลงความสำเร็จในการร่วมมือขับเคลื่อนโครงการ CHANGEx2: Greater Together โดยมี นายอาสา ผิวขำ ผู้อำนวยการสำนักพัฒนาธุรกิจและนวัตกรรม สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (องค์การมหาชน) พร้อมด้วย นายกฤษณ์ ณ ลำเลียง ประธานคณะกรรมการ Creative Economy หอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ร่วมกับ สำนักวัฒนธรรม กีฬา และการท่องเที่ยว กรุงเทพมหานคร สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (DEPA) กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (Exim Bank) ธนาคารออมสิน และตัวแทนผู้ประกอบการ Success Case เมื่อวันที่ 27 มิถุนายน 2567 ที่ผ่านมา ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุม ไบเทค บางนา

สำหรับโครงการ CHANGEx2: Greater Together ได้จัดต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 แล้ว โดยในปีนี้ CEA ได้ร่วมกับหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทยในการยกระดับธุรกิจท้องถิ่นไทยที่ผสานกับการใช้ความคิดสร้างสรรค์ ด้วยการจับคู่สร้างมูลค่าเพิ่มธุรกิจด้วยกระบวนการคิดเชิงออกแบบ เชื่อมโยงธุรกิจการท่องเที่ยวและบริการท้องถิ่น (Local Tourism and Hospitality) โดยได้คัดเลือกทีมผู้ประกอบการจากกลุ่มพื้นที่จังหวัดเป้าหมายประจำปี 2567 ครอบคลุม 3 ภูมิภาค จำนวน 3 จังหวัดจากเครือข่ายย่านเศรษฐกิจสร้างสรรค์ประเทศไทย หรือ Thailand Creative District Network (TCDN) ได้แก่ เพชรบุรี สงขลา กรุงเทพมหานครและปริมณฑล จนได้ 25 ทีมธุรกิจ เช่น Siam Rise Travel, เพจบางกะเจ้า, เอฟ.วี คาเฟ่, วิสาหกิจชุมชนชนเพ็ชรบุรีดีจัง, วิสาหกิจชุมชนย่านเมืองเก่าริมแม่น้ำเพชรบุรี, โตนดคราฟต์ ไร่เพชรมาลัยกุล ฯลฯ มาเข้าร่วมกิจกรรมค้นหาความเป็นไปได้ใหม่ทางธุรกิจ (Business Viability) ด้วยกระบวนการคิดเชิงออกแบบและการออกแบบบริการ (Design Thinking & Service Design) และ 25 ทีมธุรกิจที่ผ่านการคัดเลือกได้รับการสนับสนุนเงินทุนด้านการพัฒนาต้นแบบ ในการสร้างสรรค์ผลงานให้เกิดขึ้นจริง พร้อมโอกาสในการเชื่อมโยงธุรกิจกับภาครัฐและเอกชน เพื่อเพิ่มช่องทางการตลาดให้มากยิ่งขึ้น

นายอาสา ผิวขำ ผู้อำนวยการสำนักพัฒนาธุรกิจและนวัตกรรม (CEA) เปิดเผยว่า “CEA เป็นหน่วยงานในสังกัดสำนักนายกรัฐมนตรี มีภารกิจในการยกระดับเศรษฐกิจสร้างสรรค์ของประเทศและส่งเสริมการพัฒนาขีดความสามารถของผู้ประกอบการธุรกิจสร้างสรรค์ โดยได้ดำเนินโครงการ CHANGEx2: Greater Together มาเป็นปีที่ 3 ในปีนี้เราร่วมกับ หอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เพื่อยกระดับธุรกิจท้องถิ่นไทยให้ก้าวหน้าไปอีกขั้นด้วยการจัดกิจกรรมจับคู่สร้างมูลค่าเพิ่มธุรกิจด้วยกระบวนการคิดเชิงออกแบบ เชื่อมโยงธุรกิจการท่องเที่ยว และบริการท้องถิ่น (Local Tourism and Hospitality) ร่วมมือกันสร้างสรรค์ผลงาน พัฒนาผู้ประกอบการ และอัตลักษณ์ในท้องถิ่น หนุนซอฟต์พาวเวอร์ไทยให้เป็นที่รู้จักและเป็นที่ต้องการของตลาด สู่การส่งเสริมการสร้างรายได้ใหม่” นายอาสา กล่าว

ด้าน นายกฤษณ์ ณ ลำเลียง ประธานคณะกรรมการ Creative Economy หอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ได้กล่าวถึงความร่วมมือในโครงการนี้ว่า “เป็นปีแรกที่สำนักงานหอการค้าไทย ได้จับมือกับ CEA โดยได้ช่วยประสานงานกับผู้ประกอบการในจังหวัด ทั้งนี้บทบาทของหอการค้าคือการช่วยประสานงานกับผู้ประกอบการในจังหวัดนั้น ๆ และช่วยคัดเลือกผู้ประกอบการที่เหมาะสมเข้าร่วมโครงการและเข้าสู่ขั้นตอนการพัฒนาต่อไปที่ผ่านมาอาจจะมีผู้ประกอบการอีกหลายรายยังไม่ทราบถึงโครงการนี้ การร่วมมือในครั้งนี้ก็ถือเป็นการเปิดมุมมองใหม่และเพิ่มโอกาสให้กับเขา โดยจะมีทั้งที่จับคู่กันมาหรือเราช่วยหาครีเอเตอร์จับคู่ให้ เพื่อต่อยอดธุรกิจต่อไปได้”

พัชรกันย์ โรจน์วัชราภิบาล (ผู้ประกอบการ) วีรพล วงศ์เทวัญ (ครีเอเตอร์/สาขาการออกแบบ) กฤชสร เทียนทับศร (ครีเอเตอร์/สาขาคอนเทนต์ภาพเคลื่อนไหวและสื่อ) เจ้าของผลงาน “Well โภชนา เอฟ.วี X วีรพล วงศ์เทวัญ และ กฤชสร เทียนทับศร” คาเฟ่ขนมไทยและเครื่องดื่มที่ใช้วัตถุดิบท้องถิ่นของไทย สไตล์โฮมเมดบนถนนทรงวาด ย่านการค้าเก่าแก่ของกรุงเทพฯ เล่าให้ฟังว่า โครงการนี้มีส่วนช่วยในการวางโครงสร้างในการออกแบบสินค้า รวมถึงการวางแผนในการคิดเนื้อหา เพื่อนำเสนอแบรนด์ที่กำลังเปิดตัวสินค้าใหม่ เป็นการสร้างประสบการณ์ให้กับลูกค้า พร้อมเชิญชวนให้มาอุดหนุนสินค้ามากขึ้น ผลลัพธ์ที่ได้ คือ ชุดสินค้าของฝาก ที่รวมขนมไทย แฝงความหมายมงคล แทนคำอวยพรไว้ในกล่องเดียวกัน โดยสร้างแนวทางการออกแบบให้ขนมสัมปันนีมีรูปร่างแบบใหม่เป็นรูปทรงของอาคารหน้าร้าน F.V Song Wat และออกแบบภาพวาดประกอบให้กับบรรจุภัณฑ์ให้มีแผนที่ถนนทรงวาดและเส้นทางสถานที่สำคัญที่สามารถบอกเล่าเรื่องความหลากหลายทางวัฒนธรรมของคนในพื้นที่ได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ภายในกล่องยังมีคำแนะนำในการทิ้งและจัดการกับบรรจุภัณฑ์ให้ถูกต้องและเกิดประโยชน์ตามแบบของ Well โภชนา คือ การฉีกตามรอยปรุที่กล่อง เพื่อเปลี่ยนเป็นโปสการ์ดสำหรับเก็บเป็นของที่ระลึกไปในตัวอีกด้วย

พัชรกันย์ ยังเผยถึงความประทับใจในการร่วมโครงการฯ ว่า “ได้รับประโยชน์จากการให้คำปรึกษาอย่างใกล้ชิด ทั้งเรื่องการทำอาหาร การทำแพ็กเกจจิ้ง และการทำการตลาด มีการแนะนำทุกขั้นตอน ตั้งแต่การผลิตจนถึงการขาย รวมไปถึงการสร้างคอนเทนต์หรือการค้นหาช่องทางประชาสัมพันธ์ ที่เหมาะกับสินค้าของเรา จึงอยากเชิญชวนผู้ประกอบการ ที่ต้องการพัฒนาเพื่อเพิ่มมูลค่าทางธุรกิจ สามารถมาสมัครเข้ามาร่วมโครงการนี้ได้”

ด้าน พศิกา เสกตระกูล (ผู้ประกอบการ) นิยา แสงระบิล และชนาพร กรณ์งูเหลือม (ครีเอเตอร์/สาขาการออกแบบ) นัสรีน แสงวิมาน (ครีเอเตอร์/สาขาคอนเทนต์ภาพเคลื่อนไหวและสื่อ) เจ้าของงาน “(โซน) (ปอด) (ไพร) / พศิกา เสกตระกูล X ทีมเพจบางกะเจ้า” เล่าว่า “เมื่อพูดถึงบางกะเจ้า คนทั่วไปมักเข้าใจว่าเป็นเพียงสวนสาธารณะหรือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวใกล้กรุงเทพฯ จริง ๆ แล้ว เราเป็นการท่องเที่ยวแบบชุมชน ซึ่งบางกะเจ้าได้รับรางวัลโอเอซิสที่ดีที่สุดในเอเชียด้วย และถือเป็นพื้นที่อนุรักษ์มีต้นไม้ล้อมรอบอยู่ใกล้กรุงเทพฯ เดินทางมาเที่ยวสะดวก ‘ในฐานะตัวแทนชุมชนคุ้งบางกะเจ้าที่เกิดและโตที่นี่’ ได้เห็นวิถีชุมชนและทรัพยากรที่ดีในบางกะเจ้า จึงเกิดแรงบันดาลใจอยากจะพัฒนาชุมชน รวมถึงนำชุมชนออกมาสู่เพจบางกะเจ้า เพื่อให้ผู้คนได้เข้าถึงและเป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น ทั้งยังต้องการอนุรักษ์พื้นที่ที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นปอดของกรุงเทพฯ เป็นแหล่งผลิตอากาศบริสุทธิ์ และมีความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรธรรมชาติ”

สำหรับโมเดลธุรกิจที่สร้างขึ้นร่วมกัน จากเพจที่คอยให้คำแนะนำด้านการท่องเที่ยวและจัดกิจกรรมภายในคุ้งบางกะเจ้า สู่การจัดแคมเปญ (โซน) (ปอด) (ไพร) ประกอบด้วย Step 1 สร้างจุดร่วม โดยการพัฒนาเกมทายใจ เพื่อสร้างประสบการณ์ร่วมที่ทำให้ผู้คนอยากเข้ามาค้นหา Step 2 ประทับใจไม่ลืม โดยการจัดทริปท่องเที่ยววิถีชุมชน เพื่อสร้างความประทับใจและมอบประสบการณ์ใหม่แก่ผู้มาเยือน และ Step 3 กลับมาเที่ยวซ้ำ โดยการออกแบบ BKJ Journey Booklet สร้างแรงจูงใจให้กลับมาใหม่ด้วยการสะสมแสตมป์

ทั้งนี้ งานแถลงความสำเร็จและการจัดแสดงสินค้าและบริการของ 25 ผู้ประกอบการไทยที่ผ่านการคัดสรรในโครงการ CHANGEx2: Greater Together ณ งานไทยเที่ยวไทย ครั้งที่ 70 ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา ที่ได้จัดเสร็จสิ้นไปเมื่อวันที่ 27 - 30 มิถุนายน 2567 ที่ผ่านมา ถือว่าประสบความสำเร็จและได้รับเสียงตอบรับเป็นอย่างดี โดยได้รับความสนใจจากแขกผู้มีเกียรติ  สื่อมวลชน และประชาชนทั่วไปที่สนใจเข้าร่วมงานเป็นจำนวนมาก ถือว่าเป็นกำลังใจสำคัญที่จะเป็นแรงผลักดันให้แก่ผู้ประกอบการไทยในการพัฒนาและยกระดับมาตรฐานธุรกิจต่อไป

Posted in news on มิ.ย. 27, 2024