Research & Report

ลิขสิทธิ์แห่งความสนุก การผสมผสานความคิดสร้างสรรค์ในตลาดบันเทิง

อุตสาหกรรมบันเทิงเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา การทำความเข้าใจแนวโน้มตลาดและพฤติกรรมผู้บริโภคเป็นสิ่งสำคัญสำหรับแบรนด์ต่าง ๆ รายงาน Entertainment Radar: Licensing Opportunities จาก WGSN ได้เผยกลยุทธ์สำคัญ 7 ประการที่สามารถช่วยให้แบรนด์ประสบความสำเร็จในตลาดการค้าทรัพย์สินทางปัญญา (IP) ในวงการภาพยนตร์ โทรทัศน์ และเกม บทความนี้จะสรุปกลยุทธ์เหล่านี้ พร้อมแนวทางที่ภาคธุรกิจจะใช้ประโยชน์จากการเปลี่ยนแปลงนี้เพื่อสร้างความผูกพันกับผู้ชม

1. การกลับมาของคอหนัง 

การยกเลิกเคเบิลทีวีและความเบื่อหน่ายต่อบริการสตรีมมิงกำลังแพร่ระบาด ความนิยมในการดูหนังในโรงภาพยนตร์เริ่มกลับมาอีกครั้ง หนังอินดี้และอาร์ตเฮาส์กำลังสร้างกระแสดึงดูดผู้ชมรุ่นใหม่ที่ชื่นชอบการพบปะสังคมในโรงภาพยนตร์ สตูดิโออย่าง A24 สร้างชื่อเสียงอย่างมากในหมู่นักดูหนัง สินค้าที่ผลิตในจำนวนจำกัดหรือสินค้าธีมพิเศษที่จำหน่ายเฉพาะใน A24 Shop ช่วยเพิ่มการมีส่วนร่วมของผู้ชม

2. ต่อสู้กับความเบื่อหน่ายต่อแฟรนไชส์

แม้ว่าแฟรนไชส์จะยังคงครองอำนาจในฮอลลีวูด แต่ผู้บริโภคเริ่มเบื่อหน่ายกับการสร้างภาคต่อที่ไม่สิ้นสุด สตูดิโอต่าง ๆ กำลังปรับเปลี่ยนไปสู่การสร้างผลงานที่มีโปรดักชันเล็กลงแต่มีคุณภาพสูง โดยเว้นระยะเวลาระหว่างการเข้าฉายให้นานขึ้น ตัวอย่างเช่น การลดจำนวนภาพยนตร์ของ Marvel ต่อปีเพื่อลดความอิ่มตัวของตลาดและมุ่งเน้นไปที่ไอเดียสดใหม่ การนำเสนอผลิตภัณฑ์และการร่วมมือที่แปลกใหม่สามารถช่วยสร้างความสนใจให้กับผู้ชมได้ ความสำเร็จของภาพยนตร์อย่าง Deadpool & Wolverine แสดงให้เห็นว่าการผสมผสานที่ลงตัวนี้

3. นำเสนอมุมมองที่ซับซ้อนเกี่ยวกับความรู้สึกคิดถึงอดีต (Nostalgia)

ความรู้สึกคิดถึงอดีตไม่ได้เป็นเพียงการนำเสนอสิ่งที่เคยเป็นที่ชื่นชอบในอดีตอีกต่อไป ผู้บริโภคโดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ กำลังมองหาเรื่องราวที่ช่วยให้พวกเขาจัดการกับอารมณ์ที่ซับซ้อนได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเด็นข้อขัดแย้งทางศีลธรรม ภาพยนตร์อย่าง Oppenheimer นำเสนอเรื่องราวประวัติศาสตร์ผ่านมุมมองที่ซับซ้อน หรือซีรีส์โทรทัศน์อย่าง Stranger Things ที่ผสมผสานความรู้สึกคิดถึงยุค 80 กับประเด็นทางอารมณ์ที่ลึกซึ้ง ฯลฯ 

myfox28columbus.com/news/offbeat/step-back-into-the-80s-bath-body-works-stranger-things-collab-central-columbus-ohio-july-2024

4. รับมือกับการต่อสู้ของ “คลื่นวัฒนธรรม” จากเอเชีย

เอเชียกำลังจะกลายเป็นแรงขับเคลื่อนหลักของการเติบโตในวงการบันเทิงโลก โดยประเทศไทยและจีนกำลังเดินตามรอยเกาหลีใต้ด้วยการลงทุนอย่างมากในการส่งออกวัฒนธรรม การเกิดขึ้นของคลื่น T-Wave และ C-Wave บ่งบอกถึงยุคใหม่ของอิทธิพลทางวัฒนธรรมภายในเอเชีย สำหรับแบรนด์ต่าง ๆ นี่ถือเป็นโอกาสในการเชื่อมต่อกับตลาดที่กำลังเติบโตเหล่านี้ ด้วยการสร้างผลิตภัณฑ์และคอนเทนต์ที่ปรับให้เข้ากับรสนิยมท้องถิ่น 

5. สร้างโลกจินตนาการร่วมกับแฟน ๆ

ผู้บริโภครุ่นใหม่ต้องการมีส่วนร่วมในโลกที่พวกเขาชื่นชอบ พวกเขามีบทบาทสำคัญในการสร้างเนื้อหาและผลิตภัณฑ์ที่ส่งผลต่อ IP ตัวอย่างความสำเร็จ เช่น แพลตฟอร์มอย่าง Webtoon ที่เปิดโอกาสให้นักเขียนหน้าใหม่สร้างคอนเทนต์ของตัวเอง แบรนด์จึงควรสร้างผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์และแฝงไปด้วยเรื่องราวที่ขับเคลื่อนโดยแฟน ๆ สร้างข้อตกลงด้านลิขสิทธิ์ที่ยืดหยุ่น ซึ่งจะช่วยให้เกิดความผูกพันที่ลึกซึ้งและยาวนาน​

6. กล้าที่จะเล่น

ให้ความสำคัญกับการออกแบบผลิตภัณฑ์และกลยุทธ์ทางการตลาดที่เน้นความสนุกสนานเพื่อตอบสนองตลาด “ผู้ใหญ่ใจเด็ก” การเล่นกลายเป็นเครื่องมือทางธุรกิจเชิงกลยุทธ์ในการสร้างความผูกพันทางอารมณ์ ส่งเสริมความสัมพันธ์ระยะยาว และสร้างความใกล้ชิดกับแบรนด์ แบรนด์ควรผสมผสานความสนุกสนานในผลิตภัณฑ์ การตลาด และประสบการณ์ของลูกค้า พร้อมทั้งสนับสนุนผลิตภัณฑ์ที่ยั่งยืน เช่น ของเล่นจากวัสดุรีไซเคิล นอกจากนี้ ควรใช้ช่วงเวลาพิเศษ เช่น ปิดเทอมและวันหยุด ในการปล่อยสินค้าใหม่และเน้นการเรียนรู้ผ่านการเล่น เช่น การจัดแคมเปญเชิงการศึกษาที่ทำให้เกิดความสนุกสนาน

7. ใช้พลังของความน่ารัก

“วัฒนธรรมความน่ารัก” ยังคงครอบงำพฤติกรรมผู้บริโภคโดยเฉพาะในเอเชีย ความน่ารักช่วยให้ผู้บริโภคหลีกหนีจากความเครียดทางสังคม ผลิตภัณฑ์ที่นำเสนอความน่ารักจะยังคงดึงดูดผู้บริโภคได้ต่อเนื่อง ภาพยนตร์อย่าง Inside Out 2 และ Turning Red ประสบความสำเร็จอย่างมาก เพราะทั้งสองเรื่องจัดการกับอารมณ์ที่ซับซ้อนผ่านเลนส์แห่งความน่ารัก 

toysfanzone.com/products/cbx182

ภูมิทัศน์บันเทิงโลกกำลังเปลี่ยนแปลงไป แบรนด์ต่าง ๆ มีโอกาสใช้ข้อตกลงทางลิขสิทธิ์สร้างความสำเร็จ ด้วย 7 กลยุทธ์สำคัญ แบรนด์ที่ยืดหยุ่นและนำนวัตกรรมมาใช้ จึงมีโอกาสประสบความสำเร็จสูงสุดในตลาดลิขสิทธิ์บันเทิงที่กำลังเติบโต