Research & Report

AI ในวงการอนิเมะ งานสร้างสรรค์ที่ท้าทายลิขสิทธิ์

Generative AI กำลังปฏิวัติวิธีการสร้างสรรค์เนื้อหาด้วยความสามารถที่ก้าวล้ำ AI ไม่เพียงสามารถสร้างข้อความ วิดีโอ และเสียงที่ซับซ้อน แต่ยังสร้างภาพประกอบที่มีความเหมือนจริงจนยากจะแยกจากต้นฉบับได้อีกด้วย Nikkei รายงานว่าภาพอนิเมะที่สร้างด้วย AI ได้แพร่หลายบนอินเทอร์เน็ต โดยพบว่าภาพกว่า 90,000 ภาพจากอนิเมะยอดนิยม 13 เรื่องในเว็บไซต์ต่าง ๆ บางภาพมีความคล้ายคลึงกับภาพต้นฉบับอย่างมากจนก่อเกิดปัญหาการละเมิดลิขสิทธิ์

ตัวอย่างที่เด่นชัดคือ ปิกาจู จาก Pokemon ซึ่งเป็นหนึ่งในอนิเมะที่มีมูลค่าสูงที่สุดในโลก ด้วยรายได้สะสมจากทรัพย์สินทางปัญญากว่า 92.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ Nikkei พบว่ามีภาพเลียนแบบปิกาจูที่สร้างด้วย AI กว่า 1,200 ภาพในหลายเว็บไซต์ บางภาพถูกปรับเปลี่ยนให้ถืออาวุธหรือมีลำตัวที่เป็นของตัวละครอื่น ส่งผลให้ภาพลักษณ์ของตัวละครเบี่ยงเบนจากต้นฉบับ มาริโอ้ จาก Super Mario และ ลูฟี่ จาก One Piece ก็ถูกสร้างเลียนแบบเช่นกัน โดยเฉพาะภาพลูฟี่ที่ถูกผสมผสานกับตัวละครอื่น ๆ เช่น แบทแมน และ สไปเดอร์แมน ซึ่งอาจสร้างความสับสนให้กับผู้ชมได้

https://gijn.org/stories/analyzing-opposition-us-aid-ukraine-illegal-timber

https://technews.tw/2024/08/18/ai-anime-flood-an-infringement-investigation-of-90000-images

เบื้องหลังการสร้างภาพด้วย AI และความเสี่ยงต่ออุตสาหกรรม

การสร้างภาพด้วย AI ต้องอาศัยข้อมูลจำนวนมากในการ "เรียนรู้" ซึ่งมักดำเนินการโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของลิขสิทธิ์ ทำให้เกิดความกังวลทางกฎหมายเกี่ยวกับการละเมิดลิขสิทธิ์ ศาสตราจารย์เอริโกะ วาตานาเบะ จากมหาวิทยาลัยอิเล็กโตร-คอมมูนิเคชัน ชี้ว่า AI ที่ใช้ข้อมูลโดยไม่ได้รับอนุญาตมีลักษณะเป็นกล่องดำ (Black Box) ที่ตรวจสอบได้ยากและซับซ้อน รายงาน Anime Industry Report 2023 ระบุว่ามูลค่าตลาดอนิเมะทั่วโลกสูงถึง 3 ล้านล้านเยน การเติบโตอย่างรวดเร็วของเทคโนโลยี AI อาจกลายเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของอุตสาหกรรมนี้ในระยะยาว

ในขณะเดียวกัน OpenAI และ Google ได้ประกาศเปิดตัวเครื่องมือสร้างวิดีโอด้วย AI ในปี 2024 ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญในวงการเนื้อหาดิจิทัล ศาสตราจารย์ไดยะ ฮาชิโมโตะ จากมหาวิทยาลัยดิจิทัลฮอลลีวูด ย้ำถึงความจำเป็นในการพัฒนาเทคโนโลยีที่สามารถตรวจจับการละเมิดลิขสิทธิ์ เพื่อปกป้องอุตสาหกรรมอนิเมะญี่ปุ่น และรักษาเอกลักษณ์ของผลงานศิลปะในยุคที่ Generative AI กำลังขยายตัวอย่างรวดเร็วนี้

ความกังวลเกี่ยวกับการละเมิดลิขสิทธิ์

ปัญหาการละเมิดลิขสิทธิ์ในยุค Generative AI เป็นความท้าทายใหม่ในวงการสร้างสรรค์ เมื่อ AI สามารถสร้างภาพที่ใกล้เคียงต้นฉบับได้อย่างรวดเร็ว โดยที่ผู้สร้างอาจไม่ตระหนักถึงการละเมิดสิทธิ์ โคทาโร ทานาเบะ ทนายความจากสำนักงานกฎหมายมิมูระ โคมัตสึ อธิบายว่าการใช้ชื่อหรือลักษณะเฉพาะของตัวละครในคำสั่งสร้างภาพอาจถูกมองว่าเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ในญี่ปุ่น การจะพิจารณาว่ามีการละเมิดหรือไม่ขึ้นอยู่กับความคล้ายคลึงระหว่างผลงานต้นฉบับกับผลงานที่สร้างขึ้น รวมถึงการอ้างอิงต้นฉบับอย่างเหมาะสม

กรณีตัวอย่างที่น่าสนใจ เช่น ศาลอินเทอร์เน็ตกว่างโจวของจีน ได้ตัดสินว่าภาพที่สร้างโดย AI ซึ่งคล้ายคลึงกับอุลตร้าแมน ถือเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ ซึ่งสะท้อนถึงความสำคัญในการควบคุมการใช้งาน AI และอาจกลายเป็นแนวทางสำหรับการพิจารณาคดีในอนาคต

กฎระเบียบและการกำกับดูแลในยุค Generative AI

ความท้าทายในการกำกับดูแล Generative AI ทวีความสำคัญมากขึ้นเมื่อการสร้างภาพด้วย AI แพร่หลายและเสี่ยงต่อการละเมิดลิขสิทธิ์ สหภาพยุโรปได้ประกาศกฎระเบียบแรกของโลกที่เน้นความโปร่งใสของผลิตภัณฑ์ที่สร้างด้วย AI โดยกำหนดให้ผู้ให้บริการต้องเปิดเผยว่าเนื้อหานั้นถูกสร้างขึ้นด้วย AI ขณะที่ในสหรัฐอเมริกา หลักการ "การใช้งานโดยชอบ" หรือ Fair Use ช่วยให้การใช้ผลงานที่มีลิขสิทธิ์ทำได้ภายใต้เงื่อนไขที่เหมาะสม ศาลจะพิจารณาเป็นกรณีไปว่าการใช้งานนั้นชอบด้วยกฎหมายหรือไม่

ในส่วนของญี่ปุ่น สำนักงานกิจการวัฒนธรรมได้เผยแพร่รายงานในเดือนมีนาคมเกี่ยวกับปัญหาการละเมิดลิขสิทธิ์จากการใช้ AI สร้างสรรค์ผลงานโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยมีการตอบรับจากกลุ่มอุตสาหกรรมและบุคคลทั่วไปกว่า 20,000 ราย ซึ่งสะท้อนถึงความกังวลในการใช้ข้อมูลฝึก AI โดยไม่ได้รับอนุญาต

Generative AI ได้เปลี่ยนแปลงการสร้างสรรค์เนื้อหาในอุตสาหกรรมสื่อ แต่ก็มาพร้อมกับความท้าทายด้านการละเมิดลิขสิทธิ์และการกำกับดูแล การร่วมมือระหว่างผู้พัฒนา AI กับหน่วยงานกำกับดูแลจึงมีความสำคัญ เพื่อปกป้องทรัพย์สินทางปัญญาและส่งเสริมการใช้งาน AI อย่างมีความรับผิดชอบ