Research & Report

เปิดเรื่องราวอาหารเพชรบุรี ดีกรีเครือข่ายเมืองสร้างสรรค์ด้านอาหารขององค์การยูเนสโก

เพชรบุรีเป็นจังหวัดที่มีความอุดมสมบูรณ์ทางธรรมชาติ ที่ผสมผสานความรู้และภูมิปัญญาท้องถิ่นที่สืบทอดจากรุ่นสู่รุ่นจนกลายเป็นจังหวัดที่มีความโดดเด่นด้านอาหาร อาหารของเพชรบุรีสะท้อนถึงวิถีชีวิตของผู้คนในท้องถิ่นที่อาศัยอยู่ในภูมิประเทศที่มีทั้งภูเขา ทุ่งนา และทะเล ทำให้มีวัตถุดิบมากมายตั้งแต่น้ำตาลโตนดจากต้นตาลที่ขึ้นอยู่ทั่วเมือง เกลือสมุทรจากนาเกลือบ้านแหลม ไปจนถึงมะนาวแป้นที่ให้รสเปรี้ยวอันเป็นเอกลักษณ์ ความหลากหลายเหล่านี้ทำให้อาหารเพชรบุรีมีรสชาติที่โดดเด่น ไม่ว่าจะเป็นรสหวาน เค็ม หรือเปรี้ยว ซึ่งผสมผสานกันอย่างลงตัว

สิ่งที่สร้างชื่อให้กับเพชรบุรีคืออาหาร จนทำให้จังหวัดได้รับการประกาศให้เป็นเมืองสร้างสรรค์ด้านอาหารขององค์การยูเนสโก (UNESCO Creative Cities Network: UCCN) อย่างเป็นทางการในปี 2564 การได้รับเลือกให้เข้าร่วมเป็นสมาชิกเครือข่ายระดับโลกนี้ เป็นการตอกย้ำถึงศักยภาพและความสำคัญของอาหารเพชรบุรีในระดับสากล โดยเพชรบุรีไม่เพียงรักษาและส่งเสริมอาหารดั้งเดิมเท่านั้น แต่ยังสนับสนุนการปรับประยุกต์และสร้างสรรค์เมนูอาหารใหม่ ๆ ที่สามารถตอบสนองความต้องการของตลาดและผู้บริโภคยุคใหม่ได้ดี ภายใต้แนวคิดที่ว่าอาหารเพชรบุรีไม่เพียงโดดเด่นแค่เรื่องรสชาติ แต่ยังเป็นสื่อกลางในการเล่าเรื่องราวและสะท้อนวิถีชีวิตของผู้คนในพื้นที่ได้อีกด้วย

อาหารเมืองเพชร รสเด็ดน่าลอง

เพชรบุรีนั้นขึ้นชื่อเรื่องอาหารที่มีรสชาติอร่อยและเป็นเอกลักษณ์ ซึ่งเกิดจากการผสมผสานวัตถุดิบที่มีคุณภาพจากท้องถิ่นเข้าด้วยกันอย่างลงตัว ทำให้เกิดเป็นเมนูอาหารหลากหลายที่น่าลิ้มลอง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง 3 รสชาติหลักที่สะท้อนถึงเอกลักษณ์ของเพชรบุรี ได้แก่ หวาน เค็ม เปรี้ยว

หวานจากน้ำตาลโตนด: น้ำตาลโตนดเป็นวัตถุดิบสำคัญที่ใช้ในการปรุงอาหารหวานหลายชนิดของเพชรบุรี ไม่ว่าจะเป็นขนมหวานพื้นบ้าน หรืออาหารคาวต่าง ๆ ซึ่งน้ำตาลโตนดจะมีความหวานกลมกล่อม ไม่เหมือนน้ำตาลทรายทั่วไป ทำให้รสชาติของอาหารมีความนุ่มลึกและเป็นธรรมชาติยิ่งขึ้น

เค็มจากเกลือสมุทร: เกลือสมุทรจากเพชรบุรีมีคุณภาพสูง มีรสชาติเค็มกลมกล่อม ไม่ขม ทำให้เมื่อนำมาปรุงอาหารจะช่วยชูรสชาติของวัตถุดิบอื่น ๆ ได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งอาหารรสจัด เช่น ยำต่าง ๆ หรือแกงที่มีรสชาติเข้มข้น

เปรี้ยวจากมะนาวแป้น: มะนาวแป้นเป็นมะนาวพันธุ์พื้นเมืองของเพชรบุรี มีรสเปรี้ยวจัดและความหอมที่เป็นเอกลักษณ์ ทำให้เมื่อนำมาปรุงอาหารจะช่วยดับคาวและเพิ่มความสดชื่นให้กับอาหารได้เป็นอย่างดี

ตัวอย่างเมนูอาหารดั้งเดิมของเพชรบุรีที่น่าสนใจ ได้แก่

แกงคั่วหัวตาล: แกงคั่วที่มีรสชาติเข้มข้น หอมเครื่องแกง และมีหัวตาลเป็นส่วนประกอบหลัก รสชาติหวานมันของหัวตาลเมื่อผสมกับความเผ็ดของพริกแกง ทำให้ได้รสชาติที่ลงตัว

ก๋วยเตี๋ยวน้ำแดง: ก๋วยเตี๋ยวที่มีน้ำซุปสีแดงเข้ม รสชาติกลมกล่อม หวานเค็มกำลังดี 

ข้าวแช่เมืองเพชร: ข้าวหอมมะลิแช่น้ำดอกไม้เย็นชื่นทานคู่กับเครื่องเคียงหลากหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็นปลายี่สนผัดหวานที่หอมหวานกลมกล่อม ลูกกะปิทอด ไชโป้วดองเค็ม

รสชาติจัดจ้าน ผสานความสร้างสรรค์ สู่เมนูใหม่ที่น่าค้นหา

นอกจากนี้อาหารเพชรบุรียังได้รับการประยุกต์ใหม่เพื่อให้เข้ากับความต้องการของผู้บริโภคยุคใหม่ เชฟท้องถิ่นได้รังสรรค์เมนูใหม่ ๆ ที่ยังคงรักษาเอกลักษณ์ของรสชาติและวัตถุดิบดั้งเดิม ไม่ว่าจะเป็นเมนูฟิวชันอย่างพาสตาชะครามที่ใช้ใบชะครามซึ่งเป็นวัตถุดิบเฉพาะถิ่น หรือเมนูอื่น ๆ ที่ปรับใช้เทคนิคการทำอาหารสากลมาผสมผสานกับอาหารไทย รวมถึงร้านอาหาร Chef’s Table ที่เปิดประสบการณ์ใหม่ให้กับผู้ชิมโดยเชฟท้องถิ่น ที่นำเทคนิคการปรุงอาหารสมัยใหม่มาผสมกับความคิดสร้างสรรค์ใหม่ ๆ ในการนำเสนออาหารที่มีรสชาติที่ลึกซึ้งและเรื่องราวโดดเด่นให้กับผู้ชิม ทำให้อาหารเพชรบุรีมีความทันสมัยและเข้าถึงคนรุ่นใหม่ได้มากขึ้น

การสร้างสรรค์เมนูใหม่ ๆ เหล่านี้ไม่เพียงตอบสนองรสนิยมของผู้บริโภค แต่ยังเป็นการสืบทอดภูมิปัญญาท้องถิ่นให้คงอยู่ต่อไป โดยการใช้วัตถุดิบจากธรรมชาติที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายของเครือข่ายเมืองสร้างสรรค์ขององค์การยูเนสโก ที่ส่งเสริมการผลิตอาหารอย่างยั่งยืนและการใช้วัตถุดิบที่มาจากท้องถิ่น ทั้งหมดนี้แสดงให้เห็นได้ว่าอาหารเพชรบุรี มีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจท้องถิ่นและสร้างชื่อเสียงให้กับจังหวัดในฐานะเมืองแห่งวัฒนธรรมอาหารระดับโลก

เรียนรู้รสอร่อยแบบเจ้าถิ่นเมืองเพชร

เพชรบุรีได้ริเริ่มกิจกรรมหลากหลายรูปแบบเพื่อส่งเสริมและเผยแพร่เสน่ห์ของอาหารท้องถิ่นอันเป็นเอกลักษณ์ กระตุ้นให้เกิดการรับรู้ในวงกว้างมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการจัดกิจกรรมสุดพิเศษอย่าง Chef's Table โดยเชฟผู้มากประสบการณ์ชาวเพชรบุรี ซึ่งมุ่งมั่นที่จะนำเสนอประสบการณ์การลิ้มลองอาหารที่เป็นเอกลักษณ์และลึกซึ้งให้กับผู้ที่หลงใหลในรสชาติของเพชรบุรี หรือการจัดการประกวดเล่าเรื่องเกี่ยวกับอาหารเพชรบุรี เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้คนได้ร่วมแบ่งปันเรื่องราวและความทรงจำอันน่าประทับใจที่เกี่ยวข้องกับอาหารท้องถิ่น กิจกรรมเหล่านี้ไม่เพียงช่วยให้เพชรบุรีได้รับการยอมรับในฐานะเมืองสร้างสรรค์ด้านอาหารขององค์การยูเนสโกเท่านั้น แต่ยังเป็นการสร้างสรรค์และพัฒนาให้เพชรบุรีเป็นเมืองแห่งอาหารที่น่าสนใจและดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาเยือนอย่างต่อเนื่อง 

นอกจากนี้ การที่คนในท้องถิ่นเองได้มีส่วนร่วมในการโปรโมตอาหารเพชรบุรี จะยิ่งทำให้ผู้คนทั่วไปได้สัมผัสกับรสชาติที่แท้จริงและความหลากหลายของอาหารเพชรบุรีอย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้น รวมถึงได้ทำความเข้าใจวัฒนธรรมการกินอาหารอันเป็นเอกลักษณ์ของชาวเพชรบุรี ทั้งหมดนี้จะช่วยส่งเสริมให้คนรุ่นใหม่เกิดความภาคภูมิใจ หวงแหนในมรดกทางวัฒนธรรมด้านอาหารของท้องถิ่น และพร้อมที่จะสืบทอดและพัฒนาต่อไปในอนาคต

เพชรบุรีในวันนี้ไม่เพียงเป็นเมืองที่มีความงดงามทางธรรมชาติ แต่ยังเป็นศูนย์กลางของวัฒนธรรมอาหารที่สะท้อนถึงความอุดมสมบูรณ์และความคิดสร้างสรรค์ การได้รับเลือกให้เป็นเมืองสร้างสรรค์ด้านอาหารขององค์การยูเนสโก จะเป็นเพียงจุดเริ่มต้นของการเดินทางที่ยาวนานในการส่งเสริมวัฒนธรรมอาหารและการสร้างแรงบันดาลใจให้กับคนรุ่นใหม่ ในการรักษาและพัฒนามรดกทางอาหารให้คงอยู่ต่อไป