Research & Report

บทบาท “เกม” ช่วยเปลี่ยนโลกการทำงานให้สนุกขึ้น

การเล่นเกมในที่ทำงานมักถูกมองว่าเป็นกิจกรรมที่ไม่เกี่ยวข้องกับการทำงานในหลายองค์กร เนื่องจากมีความเชื่อว่าการเล่นเกมนั้นเสียเวลาและขัดต่อการทุ่มเทเวลาให้กับงาน ซึ่งสวนทางกับงานวิจัยหลายชิ้นที่ชี้ให้เห็นว่าเกมสามารถเสริมสร้างทักษะสำคัญในการทำงานได้ เช่น ทักษะการคิดวิเคราะห์ การทำงานเป็นทีม และการตัดสินใจ ซึ่งเป็นทักษะที่จำเป็นต่อความสำเร็จขององค์กร โดยเฉพาะอย่างยิ่งในบริบทการทำงานที่ต้องทำงานร่วมกันเป็นทีม เกมช่วยสร้างความสัมพันธ์ระหว่างสมาชิกในทีม ลดความขัดแย้ง และสร้างบรรยากาศการทำงานที่เปิดเผยและเป็นมิตร

ข้อมูลของ Harvard Business Review ได้ยกตัวอย่างเกมในกลุ่ม Tabletop Role-Playing Games (TTRPGs) เช่น Dungeons & Dragons (D&D) ซึ่งได้รับความนิยมมากขึ้นในหมู่พนักงานในองค์กรต่าง ๆ เนื่องจากเป็นเกมที่ช่วยกระตุ้นความคิดสร้างสรรค์ การทำงานร่วมกัน และการแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบ TTRPGs มีความพิเศษตรงที่ไม่จำกัดรูปแบบการเล่น และสามารถปรับเปลี่ยนกฎเกณฑ์ให้เหมาะสมกับความต้องการของผู้เล่นในทีม ทำให้การเล่นเกมเหล่านี้ในที่ทำงานสามารถเสริมสร้างทักษะที่หลากหลาย เช่น การคิดเชิงกลยุทธ์ การแก้ปัญหาเฉพาะหน้า และการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ ผลการศึกษายังพบว่าการเล่น D&D เป็นประจำช่วยลดความเครียดและภาวะซึมเศร้าของผู้เล่นได้ถึง 20% ภายในเวลาเพียง 3 เดือน ซึ่งแสดงถึงศักยภาพของเกมในการพัฒนาสุขภาวะทางจิตใจ

www.fredericknewspost.com/news/arts_and_entertainment/dungeons-dragons-has-gained-its-rightful-place-in-pop-culture/article_6055c75b-1645-5e04-b112-627253068a1c.html

ผลลัพธ์จากการเล่น TTRPGs มีประโยชน์ในหลายด้าน

  • เสริมสร้างทักษะการคิดเชิงกลยุทธ์: ผู้เล่นต้องเผชิญกับสถานการณ์ที่ซับซ้อนและต้องตัดสินใจอย่างรวดเร็ว ซึ่งช่วยพัฒนาทักษะการคิดอย่างเป็นระบบ และเพิ่มความสามารถในการวิเคราะห์ปัญหาจากหลายมุมมอง
  • สร้างทักษะการทำงานเป็นทีม: การเล่นเกมแบบกลุ่ม เช่น TTRPGs ช่วยสร้างบรรยากาศที่สนับสนุนการทำงานร่วมกัน การแบ่งปันบทบาท และการสื่อสารระหว่างผู้เล่น ช่วยเสริมความสามารถในการทำงานเป็นทีมและการเข้าใจความคิดของผู้อื่น
  • ลดความเครียดและเพิ่มความมั่นใจ: การศึกษาเกี่ยวกับการเล่น D&D พบว่าผู้ใหญ่ 25 คนที่เล่นเกมนี้เป็นประจำมีความเครียดลดลง และมีระดับความมั่นคงทางอารมณ์เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ การศึกษาในกลุ่มตัวอย่าง 801 คนยังพบว่าผู้เล่นกว่า 399 คนมีทัศนคติที่เปิดกว้างต่อประสบการณ์ใหม่ และมีความมั่นคงทางอารมณ์มากกว่าผู้ที่ไม่ได้เล่นเกม

ตัวอย่างการนำเกมมาใช้ในองค์กร

  • Microsoft ใช้ Minecraft ในการสร้างสรรค์โมเดลแนวคิดและจำลองโครงการ ช่วยให้ทีมงานพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ การใช้เกมนี้ทำให้ทีมงานเห็นภาพรวมของโครงการได้ชัดเจน และสามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างรวดเร็ว
  • Google จัดกิจกรรมการเล่นบอร์ดเกมและเกมเสมือนจริงเพื่อสร้างความสัมพันธ์ในทีม กิจกรรมเหล่านี้ช่วยให้พนักงานมีความผ่อนคลายและเปิดกว้างในการแสดงความคิดเห็น ส่งผลต่อวัฒนธรรมองค์กรที่เน้นการสร้างสรรค์และการทำงานร่วมกัน

แม้ว่าเกมจะมีประโยชน์มากมาย แต่การเล่นเกมในที่ทำงานยังคงถูกมองว่าเป็นกิจกรรมส่วนตัวที่ไม่เกี่ยวข้องกับงาน องค์กรจึงควรปรับเปลี่ยนมุมมอง โดยเปิดพื้นที่สำหรับการพูดคุยเกี่ยวกับการใช้เกมเป็นเครื่องมือพัฒนาทักษะการทำงาน

www.microsoft.com/insidetrack/blog/teaching-microsoft-employees-healthy-hybrid-meeting-habits-with-minecraft

การส่งเสริมการใช้เกมในองค์กรไม่เพียงช่วยพัฒนาประสิทธิภาพการทำงาน แต่ยังส่งผลดีต่อการเติบโตของอุตสาหกรรมเกม โดยเฉพาะในกลุ่ม TTRPGs ซึ่งปัจจุบันมีมูลค่าอยู่ที่ประมาณ 1,539.52 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และมีโอกาสเติบโตถึง 3,012.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2028 ด้วยอัตราการเติบโตเฉลี่ย 11.84% การสนับสนุนนี้ไม่เพียงสร้างโอกาสให้นักพัฒนาออกแบบเกมที่เหมาะสมกับการพัฒนาทักษะการทำงาน แต่ยังเชื่อมโยงโลกของเกมและการทำงานในลักษณะที่สร้างสรรค์และมีประสิทธิภาพ กระตุ้นการวิจัยและพัฒนาเกมที่ตอบโจทย์ความต้องการตลาด ส่งผลให้เกิดเกมที่หลากหลายและตรงกับทักษะที่จำเป็น เช่น การบริหารโครงการ การทำงานเป็นทีม และการสื่อสารข้ามวัฒนธรรม ส่งผลให้การเล่นเกมในองค์กรสามารถพัฒนาศักยภาพพนักงาน และขับเคลื่อนการเติบโตของอุตสาหกรรมเกมและเศรษฐกิจโดยรวม