Research & Report

Sound(ly) Thai: Where Music Meets Thainess ส่องไอเท็มไทย ๆ ที่ศิลปินจากโครงการ Music Exchange ภูมิใจนำเสนอในเฟสติวัลต่างประเทศ

โครงการ Music Exchange ที่จัดขึ้นในปี 2567 โดยสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (องค์การมหาชน) หรือ CEA ร่วมกับคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมด้านดนตรี เพื่อสนับสนุนศิลปินไทยในการสร้างกระแสความสนใจต่อประเทศไทย หรือปรากฏการณ์คลื่นความนิยม Thai Music Wave ให้เกิดแรงกระเพื่อมสู่ตลาดโลกอย่างต่อเนื่อง ตามเป้าหมายยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์ของรัฐบาลไทยนั้น ได้เปิดรับสมัครคัดเลือกศิลปินไทยเข้าร่วมโครงการ และกำหนดให้ศิลปินผู้สมัครนำเสนอแผนการตลาดของศิลปินในการไปแสดงต่างประเทศ และแผนการประชาสัมพันธ์และส่งเสริมภาพลักษณ์ของประเทศไทย ซึ่งนับว่าศิลปินสามารถนำเสนอเนื้อหาและวิธีการประชาสัมพันธ์ภาพลักษณ์ของประเทศไทยได้อย่างสร้างสรรค์ในแบบฉบับของตนเอง

หลังจากที่ CEA ได้สนับสนุนศิลปินไทยจากโครงการ Music Exchange จำนวนกว่า 48 ศิลปิน ให้มีโอกาสไปทำการแสดงที่เทศกาลดนตรีในต่างประเทศในปี 2567 พวกเขาได้นำบทเพลงและการแสดงดนตรีไปโชว์บนเวทีในเทศกาลดนตรีนานาชาติ เพื่อสร้างกระแส Thai Music Wave ในระดับโลก พร้อมกับยังนำไอเท็มที่แสดงออกถึงความเป็นไทย ซึ่งศิลปินภูมิใจนำเสนอแบบ Proud to Present บนเวทีการแสดงโชว์เคสและในงานมิวสิกเฟสติวัลในต่างประเทศติดตัวไปด้วย

นอกจากไอเท็มอย่างเครื่องดนตรีไทยที่ศิลปินไทยพกขึ้นเวที เพื่อช่วยโปรโมตประเทศไทยทางอ้อมแล้ว บางชิ้นยังเป็นของขวัญสำหรับมอบให้ศิลปินต่างชาติแทนมิตรภาพ นอกจากนี้ ยังมอบให้กับตัวแทนผู้จัดงานเทศกาลดนตรีในต่างประเทศอีกด้วย นับว่าเป็นเครื่องมือแสดงพลังซอฟต์พาวเวอร์ของประเทศไทยได้อย่างดี ตามไปดูกันว่าศิลปินไทยวงไหนพกอะไรกันไปบ้าง

ผู้ชมชาวญี่ปุ่นชูป้ายเชียร์ศิลปินไทยวง H 3 F ที่ไปทำการแสดงในเทศกาลดนตรี Nakasu Jazz ซึ่งจัดขึ้นในวันที่ 14 - 15 กันยายน 2567 ที่จังหวัดฟุกุโอกะ ญี่ปุ่น 

PRETZELLE สวมกางเกงมวยไทยขึ้นเวทีเทศกาลดนตรีที่จีน

ฉีกภาพลักษณ์แบบเดิม ๆ ที่วงไอดอลเกิร์ลกรุ๊ปมักมาในลุคหวานใส เมื่อศิลปิน T-Pop ชื่อดังอย่างวง PRETZELLE สวมกางเกงมวยไทยขึ้นเวทีเทศกาลดนตรีในต่างประเทศเป็นครั้งแรก ให้ลุคไทยเท่แบบเฟียซ ๆ กับการแสดงที่เทศกาล IDOL KINGDOM SHANGHAI ซึ่งจัดขึ้น ณ เมืองเซี่ยงไฮ้ สาธารณรัฐประชาชนจีน ในวันที่ 2 ตุลาคม 2567 

นอกจากจะเป็นตัวแทน T-Pop ไปโปรโมตบุกตลาดเพลงจีน ทั้ง 3 สาวยังแสดงพลังซอฟต์พาวเวอร์ของไทย ด้วยการมิกซ์แอนด์แมตช์สัญลักษณ์ศิลปะการป้องกันตัวของไทยให้กลายเป็นชุดสุดชิค พร้อมโชว์การแสดงสดต่อหน้าผู้ชมชาวจีน ทั้งร้องและเต้นด้วยคอนเซ็ปต์ที่แข็งแรงแสดงพลังแบบเกิร์ลพาวเวอร์กันอย่างเต็มที่ เชื่อว่าจบงานนี้คงได้ใจแฟน ๆ ชาวจีนไปไม่น้อยเลยทีเดียว

เมื่อเครื่องดนตรีไทยไปเฉิดฉายบนเวทีโลก

นอกจากเทศกาลดนตรีในต่างประเทศแล้ว ยังมีกิจกรรมที่โครงการ Music Exchange ของ CEA ที่สนับสนุนศิลปินไทยที่มีศักยภาพให้ได้ไปแสดงผลงานในระดับสากล ภายในเทศกาลไทย (Thai Festival) ของกรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งจัดขึ้นในประเทศต่าง ๆ โดยศิลปินไทยอย่างเอ้-สัณหภาส บุนนาค หรือดีเจ BOTCASH ได้นำเครื่องดนตรีไทยที่เขาหลงรักอย่างพิณคู่กาย ไปร่วมแสดงในเทศกาลไทย ณ กรุงโซล ครั้งที่ 9 “สวัสดีโซล ไทยเฟสติวัล 2024: ทีป๊อปสตอรี่” ซึ่งจัดขึ้นในวันที่ 5 - 6 ตุลาคม 2567 ณ Cheonggye Plaza กรุงโซล เกาหลีใต้

เปลี่ยนจากการลีดกีตาร์เท่ ๆ บนเวทีของศิลปินทั่วไป มาเป็นดีดสายพิณที่งดงามประณีต ทั้งยังมีเสียงไพเราะโดดเด่นและมีเอกลักษณ์ไม่ซ้ำใคร โดยศิลปินไทยอย่าง BOTCASH ได้ผสมผสานดนตรีไทยเข้ากับการเปิดแผ่นแบบรีมิกซ์และดนตรีแนว EDM ที่เป็นจุดเด่น เช่น เพลงที่ได้แรงบันดาลใจจากดนตรีไทยอย่างเพลง “ค้างคาวกินกล้วย” หรือเพลง “SAWASDEE” โดยใช้เครื่องดนตรีไทยอย่างพิณมาเล่นในแนว Melodic Bass เป็นเพลงปิดโชว์ เพื่อทิ้งท้ายด้วยความประทับใจ ทำให้การแสดงของเขาได้รับความสนใจจากผู้ชมชาวเกาหลีใต้ที่มาร่วมชมการแสดงในงานนี้เป็นจำนวนมาก และยังเป็นการช่วยโปรโมตวัฒนธรรมและเครื่องดนตรีของไทยทางอ้อมอีกทางหนึ่งด้วย

ผู้ชมชาวเกาหลีใต้ที่มาชมการแสดงของศิลปินไทย BOTCASH ในเทศกาลไทย ณ กรุงโซล 

อีกหนึ่งศิลปินไทยที่นำเครื่องดนตรีไทยไปแสดงในเฟสติวัลต่างประเทศ คือ TONTRAKUL ที่นำเครื่องดนตรีท้องถิ่นอย่างแคน ที่แสดงถึงวัฒนธรรมไทยอีสานไปโชว์บนเวที Showcase ในเทศกาล Gwangju Busking Worldcup Festival 2024 ซึ่งจัดขึ้นในวันที่ 1 - 2 ตุลาคม 2567 ที่เกาหลีใต้ งานนี้เสียงแคนอีสานของไทยได้ไปก้องกังวานไกลถึงถิ่น K-Pop 

นอกจากเครื่องดนตรีไทยอย่างแคนแล้ว TONTRAKUL ยังคุมคอนเซ็ปต์ไปถึงเครื่องแต่งกาย ด้วยการสวมชุดผ้าไทยขึ้นเวที ในขณะที่ทีมนักดนตรีก็ผูกผ้าพันคอลายผ้าขาวม้า บอกเลยว่าเป็น Thai Style แบบมีเทส สะดุดตาไม่แพ้ชุดฮันบกของเกาหลีเลยทีเดียว

เช่นเดียวกับวงศิลป์อีสาน จากวิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ซึ่งเป็นตัวแทนศิลปินไทยไปเข้าร่วมเทศกาลไทย ณ กรุงมอสโก (Thai Festival in Moscow 2024) ซึ่งจัดขึ้นในวันที่ 2 - 4 สิงหาคม 2567 ที่รัสเซีย นอกจากจะได้โปรโมตดนตรีอีสานและเผยแพร่วัฒนธรรมไทยและการแต่งกายท้องถิ่นให้แก่ผู้ที่เข้าร่วมงานแล้ว ยังนับเป็นการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมของไทยกับรัสเซียอีกทางหนึ่งด้วย 

Whispers กับกางเกงมวยไทยเชื่อมมิตรภาพ ณ เทศกาลดนตรีฮาร์ดคอร์ สหราชอาณาจักร

ศิลปะป้องกันตัวของไทยอย่าง “มวยไทย” (Thai Boxing) มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก และแน่นอนว่าเมื่อศิลปินจากเมืองไทยอย่างวง Whispers ไปร่วมแสดงที่เทศกาลดนตรี Outbreak Winter Fest ซึ่งจัดขึ้นในวันที่ 27 ตุลาคม 2567 ที่เมืองแมนเชสเตอร์ อังกฤษ พวกเขาก็ไม่พลาดโอกาสที่จะพกกางเกงมวยไทยแบบออริจินัล เมดอินไทยแลนด์ ดินแดนต้นกำเนิดแท้ ๆ ไปมอบเป็นของที่ระลึกให้กับเพื่อนศิลปินต่างชาติ และผู้จัดงานเฟสติวัลนี้กันอีกด้วย ทำเอาผู้รับต่างประทับใจไปตาม ๆ กัน

การแสดงสุดเดือดของวง Whispers ในเทศกาล Outbreak Winter Fest สหราชอาณาจักร 

หลายคนอาจจะไม่คุ้นชื่อเทศกาล Outbreak Winter Fest มาก่อน แต่สำหรับแฟนเพลงแนวเอ็กซ์ตรีมเมทัลทั่วโลก นี่คือเทศกาลดนตรีฮาร์ดคอร์ที่มีชื่อเสียงและยิ่งใหญ่ที่สุดในสหราชอาณาจักร นับเป็นโอกาสครั้งสำคัญของศิลปินไทยที่ได้เป็นตัวแทนศิลปินจากโครงการ Music Exchange ไปร่วมแสดง โดยวง Whispers นับเป็นศิลปินวงแรกจากเอเชียที่ได้ขึ้นเวทีแสดงในเทศกาลดนตรีนี้ 

ทั้งนี้ การที่วง Whispers เลือกกางเกงมวยไทยไปมอบให้กับศิลปินต่างชาติ และตัวแทนผู้จัดงานเทศกาล Outbreak Winter Fest ยังถือว่าเป็นไอเท็มที่เข้ากับคอนเซ็ปต์ของงานเป็นอย่างมาก เพราะจะหาของขวัญอะไรเป็นที่ระลึกเข้ากับเทศกาลดนตรีฮาร์ดคอร์ ได้เหมาะเท่ากับกางเกงมวยไทยคงไม่มีอีกแล้ว!

ด้วยจุดเด่นที่เรียกว่า “การมอช” (Moshing) ที่เป็นวัฒนธรรมการเต้นของแฟนเพลงแนวฮาร์ดคอร์ โดยใช้ร่างกายปะทะและกระแทกกันอย่างรุนแรง บางครั้งแต่ละคนก็จะเหวี่ยงแขน เหวี่ยงขา ตีลังการาวกับศิลปะป้องกันตัวออกมาโชว์ โดยจะเว้นช่องว่างที่เรียกว่า “มอชพิต” (Mosh Pit) ไว้โดยเฉพาะ ในการแสดงของวง Whispers ที่สหราชอาณาจักร มีแฟนเพลงและผู้ชมจำนวนมากที่เข้าร่วมมอชกันแบบสุดมันและสนุกสนาน ซึ่งการไปเยือนถิ่นเทศกาลดนตรีฮาร์ดคอร์ในสหราชอาณาจักรครั้งนี้ นอกจากได้แสดงผลงานบนเวทีแล้ว ศิลปินวง Whispers ยังมีโอกาสได้พบกับศิลปินจากนานาชาติ รวมทั้งสร้างเครือข่ายกับตัวแทนในอุตสาหกรรมดนตรีระดับสากลอีกด้วย

Moshing วัฒนธรรมการเต้นของแฟนเพลงแนวฮาร์ดคอร์

ผ้าผูกไมโครโฟน 7 สี กิมมิกสุดแหวกแนวบนเวทีของวง PAP YEAHH 

ใครจะไปคิดว่าวันหนึ่งจะมีโอกาสเห็นภาพของศิลปินเป็นตัวแทนแสดงพลังซอฟต์พาวเวอร์ของไทยด้วยการนำเพลงอินดี้ไทยไปแสดงบนเวทีในเทศกาลดนตรีนานาชาติ พร้อมด้วยผ้า 7 สีสำหรับผูกไมโครโฟนโดยเฉพาะ!

เจ้าของไอเดียสุดแหวกแนวนี้ คือ PAP YEAHH ศิลปินวงอินดี้ชาวไทย ที่จุดประกายจากศิลปินแนวดนตรีลูกทุ่งของไทยที่นิยมใช้ผ้าแพรสีผูกไมโครโฟน ซึ่งเชื่อมโยงกับวัฒนธรรมการผูกผ้า 3 สีที่เป็นความเชื่อที่อยู่คู่กับสังคมไทยในการแสดงการสักการะต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ โดยไมโครโฟนก็นับเป็นหนึ่งในอุปกรณ์ทางดนตรีที่ศิลปินไทยในอดีตให้ความเคารพในการแสดงบนเวทีเช่นกัน

ทั้งนี้ เวทีเทศกาลดนตรีในต่างประเทศที่ศิลปินไทยวง PAP YEAHH ไปแสดงคือ Go Man Zhi Music ซึ่งจัดขึ้นในวันที่ 7 - 10 พฤศจิกายน 2567 ที่ไทเป ไต้หวัน ตลอดการจัดเทศกาลทั้ง 4 วัน อัดแน่นไปด้วยการแสดงของศิลปินในท้องถิ่นและต่างประเทศ โดยวง PAP YEAHH เป็นหนึ่งในสองศิลปินไทยที่โครงการ Music Exchange ได้คัดเลือกไปเป็นตัวแทน เพื่อโปรโมตวงการดนตรีของไทยในระดับนานาชาติ พวกเขาก็ไม่ลืมที่จะพกไอเท็มแบบไทย ๆ ที่ไม่ซ้ำใคร ไปแนะนำให้ชาวต่างชาติได้รู้จักผ้าผูกไมโครโฟนหลากสีเช่นนี้ด้วย

กางเกงลายช้างบุกเวทีเทศกาลดนตรีที่ไต้หวัน

ชุดปลาหมึกหรือจะสู้กางเกงลายช้าง! เมื่อนักร้องนำวง The Octopuss* นำกางเกงลายช้าง ไอเท็มสุดฮิตในหมู่นักท่องเที่ยวจากเมืองไทย ไปใส่ขึ้นเวทีการแสดงในเทศกาลดนตรี Go Man Zhi Music 2024 ที่จัดขึ้นในวันที่ 7 - 10 พฤศจิกายน 2567 ณ กรุงไทเป ไต้หวัน

ที่ผ่านมาหลายคนรู้จักวง The Octopuss* วงดนตรีฟังก์ร็อก (Funk Rock) สัญชาติไทย จากจุดเด่นอยู่ที่เพลงเนื้อหากวน ๆ ไม่เหมือนใคร ด้วยเพลงที่เล่นกับเทรนด์ที่กำลังเป็นกระแสของสังคมไทยในช่วงเวลานั้น เช่น เพลง “Salty Monk” ที่ได้แรงบันดาลใจจากคลิปหลวงปู่เค็ม หรือเพลงสไตล์มูวี่ฟังก์ร็อก (Movie Funk Rock) ที่นำคอนเซ็ปต์จากหนังมาทำเพลง ทำให้ได้รับความสนใจจากผู้ฟัง เมื่อต้องไปขึ้นเวทีการแสดงในระดับนานาชาติในครั้งนี้ พวกเขาก็ไม่พลาดที่จะโชว์จุดเด่นทางด้านคอนเซ็ปต์ของวง โดยมือกลองยังได้พกชุดคอสเพลย์ปลาหมึกจากประเทศไทย ไปใส่ขึ้นเวทีแสดงพร้อมกันอีกด้วย

ถึงแม้ว่าการแสดงของพวกเขาจะขับร้องด้วยเนื้อเพลงภาษาไทย แต่ทว่าเมื่อสื่อสารออกไปด้วยท่วงทำนองดนตรีที่มีความเป็นสากล และยังเชื่อมโยงระหว่างดนตรีกับภาพยนตร์เรื่องดัง เช่น Terminator, Fight Club ฯลฯ ก็ทำให้ผู้ฟังรู้สึกสนุกสนานและอินไปกับการแสดงได้ในที่สุด

ชุดกระโปรงลายช้างสุดชิคของนักร้องนำวง TananTana

มีกางเกงลายช้างไปแล้ว ก็ต้องมีกระโปรงลายช้างบ้าง กับชุดใส่ขึ้นเวทีสุดเก๋ของศิลปินดูโอไทยอย่างวง TananTana ที่เป็นตัวแทนโครงการ Music Exchange ไปร่วมแสดงที่เทศกาล Hong Kong Asia-Pacific Youth Band Sound Competition 2024 การแข่งขันดนตรีเยาวชนในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ซึ่งจัดขึ้นเมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2567 ที่ฮ่องกง

งานนี้นับว่าเป็นเวทีของศิลปินรุ่นใหม่อย่างแท้จริง เพราะเปิดรับศิลปินจากในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกและวงดนตรีในท้องถิ่นที่มีอายุระหว่าง 18 - 35 ปีเท่านั้น ซึ่งวง TananTana ก็ได้ก้าวขึ้นเวทีทำการแสดงร่วมกับศิลปินท้องถิ่นและศิลปินจากนานาชาติ เช่น ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และมาเลเซีย นอกจากจะเป็นการแสดงในต่างประเทศครั้งแรกของวง TananTana แล้ว ยังเป็นโอกาสในการโปรโมตซอฟต์พาวเวอร์อย่างผ้าพิมพ์ลายช้างให้กลายเป็นแฟชั่นร่วมสมัย ทำให้ศิลปินวัยรุ่นไทยโดดเด่นบนเวทีนี้

ยาดมสมุนไพรไทยของศิลปินวง Rexrez

ในช่วงไม่กี่มานี้ กระแสยาดมของไทยเริ่มเป็นที่รู้จักในหมู่ชาวต่างชาติ ทั้งในเอเชียอย่างนักท่องเที่ยวชาวจีน ญี่ปุ่น และเกาหลี ที่นิยมซื้อกลับไปเป็นของฝากกันอย่างแพร่หลาย แต่ช่วงแรกยังเป็นยาดมชนิดหลอดที่มีน้ำมันหอมระเหยแบบ 2 in 1 จนกระทั่งในช่วงหลังที่เริ่มมีเหล่าอินฟลูเอนเซอร์ลองนำยาดมสมุนไพรไทยแบบโบราณไปรีวิวลงในโซเชียลมีเดีย เช่น TikTok หรือ YouTube ก็เริ่มมีผู้ที่สนใจในยาดมของไทยแบบอื่น ๆ ด้วยเช่นกัน  

เมื่อวงดนตรีแนวเดธเมทัลฮาร์ดคอร์ (Death Metal Hardcore) อย่างวง Rexrez มีโอกาสได้เป็นตัวแทนศิลปินไทยจากโครงการ Music Exchange ไปขึ้นเวทีทำการแสดงใน ROTTING NOISE TOKYO 2024 เทศกาลดนตรีดนตรีแนวฮาร์ดคอร์ที่มีชื่อเสียงอันดับต้น ๆ ในญี่ปุ่นและเอเชีย ซึ่งจัดขึ้น ณ กรุงโตเกียว ญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน 2567 เบื้องหลังการแสดงในครั้งนี้ ศิลปินวง Rexrez และทีมงานยังพกยาดมสมุนไพรไทยใส่กระเป๋ามาด้วยแพ็กใหญ่ โดยหอบหิ้วขึ้นเครื่องบินลัดฟ้าจากเมืองไทยไปถึงที่ญี่ปุ่น นอกจากสำหรับใช้เองบางส่วนแล้ว ยังแจกจ่ายเป็นของขวัญที่ระลึกให้กับศิลปินต่างชาติและตัวแทนผู้จัดงานเทศกาลดนตรีได้สูดดมกันให้ชื่นใจ เติมพลังความสดชื่นแบบไทย ๆ หลังจากโยกหัวสะบัดคอแบบชาวร็อกกันสุดเหวี่ยง

วง Rexrez มอบยาดมสมุนไพรไทยเป็นของขวัญที่ระลึกให้กับศิลปินต่างชาติและตัวแทนผู้จัดงานเทศกาลดนตรี ROTTING NOISE TOKYO 2024

เมื่อธงชาติไทยไปโบกสะบัดบนเวทีการแสดงในต่างประเทศ

สำหรับศิลปิน นักร้อง-นักดนตรีหลายวง การได้ไปขึ้นเวทีการแสดงในเทศกาลดนตรีในระดับนานาชาติ นับเป็นเกียรติและสร้างความภาคภูมิใจให้แก่ศิลปิน เช่นเดียวกับการที่นักกีฬาไทยได้ไปร่วมแข่งขันในเอเชียนเกมส์หรือโอลิมปิกเลยทีเดียว

และเมื่อ Ugoslabier วงดนตรีเมทัลไทยที่โดดเด่นด้วยสไตล์ดนตรีแนว Post-Hardcore ได้รับเลือกจากโครงการ Music Exchange ให้เป็นตัวแทนศิลปินไทยไปร่วมเทศกาลดนตรีในภูมิภาคอาเซียน ในเทศกาล Blackandje Fest 2024 ที่จัดขึ้นในวันที่ 31 สิงหาคม 2567 ในอินโดนีเซีย พวกเขาก็ไม่พลาดโอกาสที่จะนำธงชาติไทยไปขึ้นเวทีการแสดงด้วย พร้อมถ่ายรูปร่วมกับแฟนเพลงร็อกฮาร์ดคอร์ชาวอินโดนีเซียเป็นที่ระลึกหลังจบการแสดง

ชุดผ้าไทยจากวง Coconut Sunday

อีกหนึ่งศิลปินไทยที่ไปเผยแพร่พลังซอฟต์พาวเวอร์ไทยไกลถึงญี่ปุ่น คือศิลปินวง Coconut Sunday วงดนตรีป๊อปสัญชาติไทยที่ไปขึ้นเวทีการแสดงใน Asian Music Spree 2024 เทศกาลดนตรีสุดฮิป ซึ่งจัดขึ้นในวันที่ 15 ธันวาคม 2567 ที่เมืองโอซาก้า ญี่ปุ่น

นักร้องนำของวงได้เลือกสวมชุดคลุมไหล่ซึ่งเป็นผ้าไทยที่มีลวดลายละเอียดประณีต สำหรับการแสดงบนเวทีโดยเฉพาะ นอกจากจะได้โปรโมตผ้าไทยให้เป็นที่รู้จักแล้ว ยังนับเป็นแฟชั่นที่เก๋แปลกตา มีความยูนีก เหมาะกับงานเทศกาลที่จัดในย่านชินไซบาชิ ซึ่งเป็นย่านช้อปปิ้งสุดชิคที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองโอซาก้า รวมทั้งยังได้ร่วมฉลองเป่าเทียนเค้กวันเกิดอย่างอบอุ่นบนเวที ท่ามกลางผู้ชมชาวญี่ปุ่นที่มาชมการแสดงอีกด้วย

เสื้อยืด I Love Thailand จากวง LEMONY

อีกหนึ่งศิลปินไทยที่ได้รับเลือกจากโครงการ Music Exchange ไปแสดงในเทศกาลดนตรีในต่างประเทศ ได้แก่ LEMONY วงดนตรีสุดอินดี้จากค่ายเพลง Sanamluang Music ที่มีโอกาสเป็นตัวแทนศิลปินจากประเทศไทย เข้าร่วมเทศกาล Oursea Chill Festival 2024 ที่ไต้หวัน ซึ่งจัดขึ้นในวันที่ 31 สิงหาคม - 1 กันยายน 2567 

ในการแสดงครั้งนี้ นักร้องนำของวง LEMONY เลือกเสื้อที่สกรีนลาย “I Love Thailand” สวมขึ้นเวทีทำการแสดงต่อหน้าผู้ชมชาวไต้หวันและนานาชาติหลายร้อยคน แถมยังมิกซ์แอนด์แมตชกับเสื้อลายม้าลาย และเครื่องประดับอย่างสร้อยคอและต่างหูมุก เผยสไตล์จัดจ้าน โดดเด่นสะดุดตาบนเวที บอกให้แฟนเพลงรู้ว่านี่ล่ะคือศิลปินที่มาจากประเทศไทย!

กระเป๋าผ้าปักลายช้าง ของที่ระลึกจากวง SANIMYOK

ชาวญี่ปุ่นคุ้นเคยกับสัญลักษณ์และสัตว์ประจำชาติของไทยอย่างช้างมานาน เมื่อวงสนิมหยก (SANIMYOK) เป็นศิลปินไทยที่ได้รับการคัดเลือกให้เป็นตัวแทนจากโครงการ Music Exchange ไปร่วมเทศกาล JERSEY EIGHT 2024 ซึ่งจัดขึ้นในวันที่ 19 - 20 ตุลาคม 2567 ที่ญี่ปุ่น จึงไม่พลาดที่นำไอเท็มอย่างกระเป๋าผ้าปักลายช้าง ของฝากจากไทยแลนด์ติดไม้ติดมือไปด้วย

ด้วยแนวดนตรีที่เป็นเพลงแนวร็อกผสมผสานกับดนตรีหลายประเภทจนมีเอกลักษณ์ ทำให้การแสดงของวงสนิมหยก ได้รับการตอบรับจากทั้งผู้จัดเทศกาลและผู้ที่เข้าร่วมงานเป็นอย่างดี โดยตลอดระยะเวลาทั้ง 2 วันของการจัดเทศกาล มีทั้งชาวญี่ปุ่นและชาวต่างชาติที่อาศัยอยู่ในญี่ปุ่น มาร่วมชมการแสดงของศิลปินไทยวงนี้อย่างอบอุ่นและใกล้ชิด

นอกจากงาน JERSEY EIGHT 2024 ที่จัดขึ้นในเมืองโยโกฮามา วงสนิมหยกยังได้เดินทางไปแสดงผลงานดนตรีในเมืองต่าง ๆ ในญี่ปุ่น เช่น คามาคุระ, โชนัน, ฟุคุอิ และโอซาก้า โดยไม่ลืมพกของฝากอย่างกระเป๋าผ้าปักลายช้างไปด้วยทุกที่ นอกจากนี้ วงสนิมหยกยังทำการโปรโมตโดยให้สัมภาษณ์กับสถานีวิทยุท้องถิ่นของญี่ปุ่น ส่งผลให้มีโอกาสสร้างเครือข่ายกับศิลปินและผู้คนในแวดวงดนตรีของญี่ปุ่นอีกด้วย

“การไหว้” ที่ทัชใจ โชว์พลังซอฟต์พาวเวอร์

ศิลปินและนักดนตรีวง Rexrez ไหว้ขอบคุณทีมงานหลังจบการแสดงในเทศกาล ROTTING NOISE TOKYO 2024 ซึ่งจัดขึ้นในวันที่ 23 พฤศจิกายน 2567 ณ กรุงโตเกียว ญี่ปุ่น 

ปิดท้ายด้วยการไหว้แบบไทย ๆ ที่เป็นวัฒนธรรมดั้งเดิมของชาวไทยมาแต่สมัยโบราณ โดยเป็นทั้งการแสดงความเคารพต่อผู้ใหญ่ การทักทาย และการไหว้เพื่อขอบคุณ เมื่อศิลปินไทยนำซิกเนเจอร์อย่างธรรมเนียมการไหว้แบบไทยไปใช้บนเวทีการแสดงดนตรีในต่างประเทศ จึงเป็นภาพที่ให้ความรู้สึกของความนอบน้อม ความเคารพ และเผยเสน่ห์ของศิลปินไทยที่แตกต่างไปจากศิลปินชาติอื่น ๆ

ศิลปินและนักดนตรีไทย YONLAPA ไหว้ขอบคุณผู้ชมในเทศกาล DEFOAMAT ซึ่งจัดขึ้นในวันที่ 19 ตุลาคม 2567 ที่กรุงโตเกียว ญี่ปุ่น

เหล่านี้คือตัวอย่างไอเท็มและความเป็นไทย ที่ศิลปินจากโครงการ Music Exchange นำไปเพื่อแสดงออกถึงความเป็นไทยในเทศกาลดนตรีในต่างประเทศ นอกจากจะใช้บทเพลงและเสียงดนตรีในการเชื่อมโยงกับผู้ชมชาวต่างชาติแล้ว สิ่งเล็ก ๆ (ที่ยิ่งใหญ่) อย่างของที่ระลึกจากเมืองไทย เครื่องแต่งกายของศิลปินบนเวที รวมทั้งเครื่องดนตรีไทยและการไหว้ ยังช่วยสร้างกระแสซอฟต์พาวเวอร์ของไทยได้อีกทางหนึ่งด้วย